Tuesday, 21 May 2024
นอร์ทไทม์

‘อนุทิน’ ลั่น ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ชี้ ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง เพราะต้องทำงานเพื่อประชาชน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียงก็ต้องหาเสียงอย่างเต็มที่ เชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ เพราะตนไม่ได้หมายความว่า จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ ซึ่งตนก็ได้พบเจอกับพล.อ.ประยุทธ์แต่ไม่ได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ เป็นการพูดคุยในประเด็นการทำงานทั่วไป อีกทั้งแต่ละพรรคการเมือง ก็ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนกัน พรรคการเมืองลงพื้นที่พบประชาชน เพราะทุกพรรคต้องแสดงความพร้อม

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอรอให้ถึงช่วงเลือกตั้งก่อนจึงจะสามารถรู้ได้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เสียงส.ส.กี่เสียง และทุกอย่างจะชัดเจนช่วงเย็นของวันเลือกตั้ง ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนว่าเนื้อหอมที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองทุกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็เนื้อหอมหมด เห็นพรรคพลังประชารัฐก็ไปเปิดตัวที่หนองคาย พรรคเพื่อไทยก็ไปที่เชียงราย พรรคก้าวไกลลุยพื้นที่กรุงเทพ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ไปลพบุรี ส่วนที่คนมีชื่อเสียงไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนใหญ่ เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับพรรคภูมิใจไทย  

(ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board)

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้

 

(ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2564/2565 ว่าขณะนี้รอเพียงนายกรัฐมนตรีนำโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ประสบความเดือดร้อนจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ในฤดูกาลผลิตปี 2564/2565 เข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบเท่านั้น

 

จึงฝากท่านนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือเยียวยาชาวสวนลำไยเป็นการด่วนโดยสามารถนำเข้าคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในสัปดาห์หน้าก่อนที่จะมีการยุบสภาเนื่องจากรอการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วแต่กลับถูกดึงเรื่องจนถึงวันนี้กลับบอกว่าไม่มีเงิน

 

“โครงการนี้ฟรุ้ทบอร์ดได้มีมติเห็นชอบโครงการตามข้อเสนอของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไยในภาคตะวันออกและภาคเหนือโดยการนำของ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรฯ. นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญาอดีต ส.ส.จันทบุรี นายขยัน วิพรหมชัย อดีตส.ส.ลำพูน และ นายพสิษฐ์ สุขสวัสดิ์ ประธานแปลงใหญ่ลำไยจังหวัดลำพูนร่วมกับเครือข่ายชาวสวนลำไยทุกกลุ่มโดยดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามเห็นชอบโครงการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2565 เสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนผ่านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีลงนามเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ถ้านายกรัฐมนตรีนำเข้าคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปีที่แล้ว ชาวสวนลำไยก็คงได้รับเงินเยียวยาไปเรียบร้อยแล้ว”

 

นายอลงกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นข้ออ้างว่า เงินช่วยเหลือเยียวยาชาวสวนลำไยใช้เงินจำนวนมากนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณใช้เงินหลายแสนล้านในโครงการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆในขณะที่การเยียวยาชาวสวนลำไยใช้เงินเพียง3พันล้านเท่านั้น

.

ส่วนประเด็นข้ออ้างเรื่องวงเงินช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ใช้เต็มวงเงินนั้นขอยืนยันว่าการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรจะมีเพดานเงินไม่ได้เพราะหากเกิดภัยแล้งวันนี้ต้องใช้เงินช่วยเหลือเกษตรกรแล้วบอกว่าวงเงินไม่มี พูดแบบนี้อย่าเป็นรัฐบาล ขอแนะนำว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาง่ายมากโดยคณะรัฐมนตรีมีมติเพิ่มวงเงินช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งทำได้อยู่แล้ว เพราะคณะรัฐมนตรีเคยดำเนินการมาแล้วเป็นเงินหลายแสนล้าน จึงขอให้เห็นใจชาวสวนลำไยซึ่งรอเงินเยียวยาโดยกระทรวงเกษตรฯ.เสนอไปตั้งแต่6เดือนที่แล้ว

 

“อย่าพยายามอ้างเหตุผลการโยนเรื่องกลับมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เสนอรอบ2ทั้งที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็นใดๆ เนื่องจากเป็นโครงการที่เคยเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเยียวยาชาวสวนลำไยฤดูกาลผลิตปี 2563/2564 มาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ใช่โครงการแรกเมื่อ2ปีก่อนก็ไม่เคยต้องเสนอ2รอบแบบนี้ แต่เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีข้ออ้างใดๆอีก

กระทรวงเกษตรฯ.ก็ยอมปฏิบัติตามโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.ลงนามเสนอรองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ได้ลงนามถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีและรอเพียงนายกรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ

 

ดังนั้นการอ้างว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการล่าช้าหรือการอ้างว่าใช้วงเงินเต็มแล้วจึงเป็นเหตุผลข้ออ้างที่ไม่ถูกต้องเพราะเสนอมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว

 

ซึ่งหากมีความจริงใจที่จะช่วยเหลือชาวสวนลำไยเพียง 3 พันล้านก็สามารถทำได้ทันที จึงขอให้ชาวสวนลำไยในภาคเหนือและภาคตะวันออกได้เข้าใจความจริงในเรื่องนี้ อย่าให้มีใครมาบิดเบือนหรือเตะถ่วงให้ไปรอรัฐบาลหน้า เพราะรัฐบาลนี้สามารถอนุมัติได้ทันที นายอลงกรณ์กล่าว

 

ในที่สุด สำหรับโครงการเยียวยาชาวสวนลำใยครั้งนี้มีแนวทางช่วยเหลือที่กำหนดไว้ ดังนี้ ขนาดพื้นที่ปลูกรายละ ไม่เกิน 25 ไร่ ในอัตรา 2,000 ต่อไร่ กรอบวงเงินทั้งหมด 3,821.54 ล้านบาท

 

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top